กรณีพบศพนายลี แจ ฮุง อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ ถูกฆ่ารัดคอ และแทงเสียชีวิต ทิ้งศพไว้ริมถนนบ้านงิ้ว-หัวทะเล ทางเข้าบ้านกระทุ่มพระ หมู่ 3 ต.บ้านตาล อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ หลังผู้ตายเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา และมีกำหนดจะเดินทางกลับในวันที่ 14 ธ.ค. แต่มาพบกลายเป็นศพเมื่อเช้าวันที่ 12 ธ.ค. เจ้าหน้าที่นำศพส่งผ่าพิสูจน์ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. นางปาร์ค อึน มี อายุ 52 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย นายเซ อู อายุ 22 ปี น้องชายผู้ตาย พร้อมกับญาติอีก 1 คน และล่ามจากสถานทูตเกาหลี เดินทางโดยรถตู้ มาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อดูศพและยืนยันว่าเป็นนายลี
ทันทีที่นางปาร์ค อึน มี พบศพลูกชายก็โผเข้ากอดร่าง และร้องไห้ปริ่มใจสลาย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น กระทั่งอาการเริ่มดีขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวญาติผู้ตายทั้งหมด มาสอบปากคำที่ห้องรับรอง สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อสอบถามประวัติผู้ตายเพิ่มเติม
แต่เมื่อเดินทางมาถึงนางปาร์ค อึน มี ร้องไห้กระทั่งเป็นลม เจ้าหน้าที่ต้องประสานรถพยาบาลฉุกเฉินมาช่วยเหลือปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่ง รพ.กรุงเทพ ราชสีมา เนื่องจากความดันสูง ก่อนเดินทางกลับมาให้ปากคำ เบื้องต้น แจ้งว่าจะทำพิธีเผาศพที่วัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ในตอนเช้าวันพรุ่งนี้ ( 17 ธ.ค.) ก่อนที่จะนำกระดูกกลับไปที่บ้านเกิดประกอบพิธีตามประเพณีต่อไป ในส่วนของคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนญาติผู้ตายยังไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวรูปคดีมากนัก เนื่องจากไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน เพราะแยกทางกับสามีเก่า คนตายพักอยู่กับพ่อ จึงไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับลูกชายมากนัก ทราบเพียงว่าทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกาหลี ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับอาชญากรรม และไม่ได้มีทรัพย์สินมากมาย
ตอนนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นเหตุฆ่าชิงทรัพย์ ล่าสุด ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้เคียงจุดสุดท้ายที่หายตัวไป คือที่ปิ่นเกล้า เพื่อดูว่าผู้ตายขึ้นรถคันไหน ไปไหนต่อ เพื่อจะได้หาพยานหลักฐานมาเชื่อมโยงหาคนร้าย
อย่างไรก็ตาม ฝากถึงประชนชนที่มีเบาะแสเข้าแจ้งให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพื่อจะได้นำมาประกอบเป็นหลักฐาน ในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้โดยเร็ว
0 comments :
Post a Comment