โหดร้ายจริงๆรวบสามผู้ต้องหาอุ้มลูกชายเสี่ยใหญ่เมืองชุมพร ยัดถังโปกปูนทิ้งบ่อดินร้างกลางป่า มีคลิป



โหดร้ายจริงๆ..รวบสามผู้ต้องหาอุ้มลูกชายเสี่ยใหญ่เมืองชุมพร ยัดถังโปกปูนทิ้งบ่อดินร้างกลางป่า ..(มีคลิป)..


รวบสามผู้ต้องหาอุ้มลูกชายเสี่ยใหญ่เมืองชุมพร ยัดถังโปกปูนทิ้งบ่อดินร้างกลางป่า
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2558 พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 50 นาย นำตัวนายไพศาล รักษาผล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.6 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร นายสุเทพ เพ็ชรอาวุธ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/1 ม.3 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนองและนายสมพร โลภาศ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253/1 ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร มาชี้จุดที่นำถังที่ยัดศพ นายอภิสิทธิ์ วานมณี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 ม.11 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร ลูกชายเจ้าของฟาร์มหมูใหญ่ที่สุดของเมืองชุมพรและยังเป็นนักธุรกิจอื่นๆติดอันดับเสี่ยร้อยล้านของเมืองชุมพร มาทิ้งในบ่อดินร้าง กลางสวนยางพาราของชาวบ้าน ม.8 บ้านเขาน้อย ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีแม่ผู้ตายญาติๆและบรรดาไทยมุง ที่ทราบข่าว เดินทางมาดู จนต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตัวผู้ต้องหาหวั่นจะถูกรุมประชาทัณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยผู้ต้องหาทั้งสามได้ชี้จุดที่ทิ้งถังยัดศพ ในบ่อร้าง ซึ่งมีความลึกกว่า 20 เมตร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสายชล จึงได้ใช้เชือกโรยตัวลงไปก่อนจะใช้เชือกพันถัง พบครั้งแรกมีเศษกิ่งไม้และใบไม้ปิดปกคลุมจนเกือบมิด ขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเล โดยถังดังกล่าวพบว่าเป็นแบบถังพลาสติกสีฟ้า ขนาด 200 ลิตร มีฝาปิดสีขาว โดยฝาปิดเป็นลักษณะแค็มล็อก เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้ต้องหาได้ชี้ถังดังกล่าวเพื่อประกอบคำรับสารภาพ แต่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังจะให้ชี้ถังที่ทั้งสามฆ่านายอภิสิทธิ์ แล้วยัดใส่ถัง บรรดาญาติของผู้ตายได้ผ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปชกต่อยผู้ต้องหาทั้งสามอย่างโกลาหล เจ้าหน้าที่ช่วยกันญาติออกไป ก่อนจะรีบทำแผนและรีบนำผู้ต้องหาขึ้นรถออกไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงสาปแช่งด่าลั่นพื้นที่เกิดเหตุ  

?ิ??ี่?ี่ ????????์

ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้นำถังดังกล่าวขึ้นรถรถยนต์โตโยต้า สีดำแบบสี่ประตู หมายเลขทะเบียน กค 9004 ชุมพร ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ผู้ต้องหาทั้งสามใช้ก่อเหตุ มายัง โรงพยาบาลชุมพรฯเพื่อผ่าถังเอาศพนายอภิสิทธิ์ ออกมาพบสภาพศพถูกยัดในลักษณะเอาศรีษะปักลงในถัง มือแนบลำตัว ขาทั้งสองข้างพับงอ ก่อนจะเทปูนทับปิดลงไป เจ้าหน้าที่จึงได้ให้แพทย์ร่วมชันสูตรพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ก่อนจะทำความสะอาดศพ ส่งให้ญาติไปดำเนินการทางศาสนาต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามได้ในครั้งนี้นั้น สืบเนื่องมากจาก ก่อนหน้าทางนายสุนทร วานมณี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 ม.11 ต.บางหมาก และ นางมณฑา สายทองสุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/70 ม.7 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพรซึ่งเป็นพ่อและแม่ของผู้ตาย ได้เข้ามาแจ้งความลูกชายได้หายออกจาบ้านไม่สามารถติดต่อได้ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.58 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังออกติดตามสืบหาข่าว จนทราบว่าผู้ตาย ก่อนที่จะหายตัวไปได้มีคนเห็นว่ามีรถยนต์กระบะสีดำ แบบสี่ประตู และชายวัยฉกรรจ์ หลายคนนั่งมาในรถมารับที่บ้าน จึงสืบขยายทราบรถคันดังกล่าวเป็นรถยนต์ของนายไพศาล รักษาผล หนึ่งในผู้ต้องหา และนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด 
ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า จากการสอบสวน นายไพศาล รักษาผล มีอาชีพเป็นช่างทำบ้านแบบน็อกดาวน์ เปิดอยู่ใกล้กับบ้านพ่อผู้ตาย ริมถนนสายเอเซีย 41 ข้างสถาบันพลศึกษา ทำให้รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี โดยนายไพศาล เป็นตัวต้นคิดที่จะอุ้มฆ่าในครั้งนี้ เพื่อต้องการจะล้างหนี้ ที่ จำนวน 3 แสนบาท ที่นายไพศาล ได้หลอกผู้ตาย อ้างจะนำไปมัดจำการซื้อที่ดินแห่งหนึ่งในเขตเมืองชุมพร โดยผู้ตายได้ให้เงินไปแต่การซื้อขายที่ดินดังกล่าวกลับเงียบหายไป ผู้ตายได้สอบถามและถูกผลัดเปลี่ยน ไปดูที่ดินหลายครั้ง จนที่ทุดนายไพศาลและพวก ได้วางแผนมารับผู้ตาย ไปดูที่ดินที่จะซื้อ ก่อนจะพาเข้าสวนยางพารา และใช้เหล็กทุบศรีษะหลายครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่ง แล้วจับยัดใส่ถังที่เตรียมมาแล้วใช้ปูนเทปิดทับแล้วปิดฝานำมาทิ้งดังกล่าว ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กระทำด้วยทารุณโหดร้าย ซ่อนเร้นศพ ให้ทั้งสามได้ทราบและทั้งสามให้การรับสารภาพ พร้อมนำมาชี้จุดดังกล่าว


คลิป


About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments :

Post a Comment