รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ไทย(สดร.) เปิดเผยว่า วันที่ 22 ธันวาคมนี้ ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงกลางวันจะสั้นและช่วงกลางคืนจะยาวนานที่สุดในรอบปี ภาษาสันสกฤตเรียกว่า "วันเหมายัน(เห-มา-ยัน) (Winter Solstice)
สำหรับประเทศไทยจะเรียกว่า "ตะวันอ้อมข้าว" ดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 06:36 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 17:55 น. (เวลา ณ กรุงเทพฯ) รวมระยะเวลากลางวันเพียง 11 ชั่วโมง 19 นาที เท่านั้น จึงรู้สึกว่าท้องฟ้าจะมืดเร็วกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปี ประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน
ด้านนายวิมุติ วสะหลาย กรรมการวิชาการ สมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า หากไม่สังเกตจริงๆ วันเหมายันจะไม่แตกต่างกับวันอื่นๆมาก กลางวันสั้นกว่าวันปกติ และกลางคืนมีระยะเวลายาวกว่าเดิม 41 นาที สำหรับคนทั่วไปไม่มีผลอะไร แต่สำหรับคนที่ตื่นนอนตามดวงอาทิตย์ ดูเหมือนว่า จะเพิ่มเวลานอนได้อีก 41 นาที
อย่างไรก็ตาม เคยมีงานวิจัยออกมาว่า การที่กลางวันสั้นและกลางคืนยาวนั้น มีผลต่อการสะสมพลังงานของนกอพยพ พบว่าในวันนี้ เหล่านกอพยพจะมีพลังงานมากกว่าทุกวัน นอกจากนี้มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นอ่อนของไม้บางชนิด ทำให้ต้นอ่อนของต้นไม้โตเร็วขึ้น
เมื่อถามว่า เหมายันจะมีผลต่อการบินกลับรัง ของนก หรือสัตว์อื่นๆที่หากินตอนกลางคืนหรือไม่ นายวิมุติ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลอะไรมากนัก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ฟ้ามืดเร็วขึ้นจากเดิม 41 นาทีเท่านั้น
0 comments :
Post a Comment